คลอเรสเตอรอลมีเฉพาะในสัตว์เท่านั้น ในผักผลไม้ไม่มีคลอเรสเตอรอล

คลอเรสเตอรอลมีเฉพาะในสัตว์เท่านั้น ประโยชน์ มะม่วง ไม่มีคลอเรสเตอรอลครับ


ส่วนถ้าพูดถึงน้ำตาลถ้ามะม่วงลูกเดียวกันมีประมาณน้ำตาลเท่าๆ กันครับตอนสุกกะดิบ เพราะตอนดิบน้ำตาลอยู่ในรูปแป้ง แต่ตอนสุกมันเปลี่ยนเป็นน้ำตาล (ซึ่งแป้งกะน้ำตาล ก็อยู่ในกลุ่มอาหารที่เราเรียกว่า คาร์โบไฮเดรต ครับ

มะม่วงสุกก็มีเบต้าแคโรทีนมากกว่า ผักผลไม้สีเหลือง สีส้มทุกชนิดจะมีเบต้าแคโรทีนครับ

พูดถึงระดับน้ำตาลมะม่วงสุกจะทำให้ระดับน้ำตาลขึ้นเร็วกว่า เพราะน้ำตาลในผลไม้สูงเป็นน้ำตาลโมเลกุลคู่ทำให้ย่อยและดูดซึมได้ง่ายกว่า มะม่วงดิบซึ่งเป็นน้ำตาลโมเลกุลเชิงซ้อน ต้องย่อยหลายครั้งทำให้ดูดซึมได้ช้ากว่า แต่อย่างไรก็ตามในมะม่วงลูกเดียวกัน ตอนสุกกะตอนดิบบอกไปแล้วว่ามีปริมาณน้ำตาลใกล้เคียงกัน

ฉะนั้นในผู้ที่ต้องการจะความคุมน้ำตาลในเลือด (ผู้ป่วยเบาหวาน) ทางโภชนาการจะมีการกำหนดว่าผลไม้แต่ละชนิดมื้อหนึ่งๆ จะรับประทานได้แค่ไหน ส่วนใหญ่จะทานได้หนึ่งส่วน ต่อหนึ่งมื้อ

หนึ่งส่วนของผลไม้ เช่น ครึ่งลูกมะม่วงขนาดมะม่วงอกร่อง ส้มผลขนาดกลาง ฝรั่งหนึ่งในสามลูก แอ๊ปเปิลผลขนาดกลาง องุ่นหกเม็ด ลิ้นจี่สี่ลูก ลำไยหกลูก เป็นต้น ครับ

อาหารแต่ละชนิดไม่มีอะไรดีกว่าอะไรครับ แต่ละอย่างมีคุณค่าต่างๆ กัน

มะม่วงดิบ มีคาร์โบไฮเดรท มากกว่ามะม่วงสุก
มะม่วงสุก มีน้ำตาลผลไม้ และ สารในกลุ่มแคโรทีนอยด์ มากกว่ามะม่วงดิบ
มะม่วงน้ำดอกไม้สุก มีสารเบตาแคโรทีนมากที่สุด 873 ไมโครกรัม
ปริมาณของวิตามินอีสูง
มะม่วงเขียวเสวยดิบ มี 1.52 มิลลิกรัม
มะม่วงเขียวเสวยสุก มี 1.23 มิลลิกรัม
มะม่วงน้ำดอกไม้สุก มี 1.1 มิลลิกรัม
มะม่วงยายกล่ำสุก มี 0.97 มิลลิกรัม

สำหรับผู้ป่วยหรือกลุ่มคนที่ต้องควบคุมปริมาณน้ำตาล โดยเฉพาะผู้ที่เป็นเบาหวานอาจต้องเลือกผลไม้ที่รสไม่หวาน ในอเมริกาได้แนะนำให้ผู้ชายบริโภคแคโรทีนอยด์วันละ 6 มิลลิกรัม ในคนไทยแนะนำให้บริโภค วิตามินอีวันละ 6-15 มิลลิกรัม และวิตามินซีวันละ 40-90 มิลลิกรัม

No comments:

Post a Comment